บทความบีไอซีคุนหมิง ปี 2558 ตอนที่ 3 พาเดินเล่นหยุนฝ่าง แหล่งรวมร้านจำหน่ายสินค้าไทย ที่ใหญ่สุดในนครคุนหมิง

บทความบีไอซีคุนหมิง ปี 2558 ตอนที่ 3 พาเดินเล่นหยุนฝ่าง แหล่งรวมร้านจำหน่ายสินค้าไทย ที่ใหญ่สุดในนครคุนหมิง

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 818 view

ความได้เปรียบของมณฑลยูนนานที่มีพื้นที่ใกล้กับไทย ทำให้การเดินทางจากกรุงเทพไปคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน ใช้เวลาบินเพียง 2 ชั่วโมง ยิ่งถ้าเดินทางจากภาคเหนือบ้านเราอย่างเชียงใหม่หรือเชียงรายใช้เวลาเดินทางไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง เรียกได้ว่าเร็วกว่าบินภายในประเทศจากเชียงใหม่ไปภูเก็ตซะอีก

หากเดินทางด้วยรถยนต์ตามทางหลวงคุนหมิง-กรุงเทพ (R3A) จากอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ไปยังเขตสิบสองปันนา ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 5 ชั่วโมง ก็เดินทางข้ามสามประเทศ คือ ไทย-ลาว-จีน

ด้วยความที่ใกล้กันมากและการเดินทางที่สะดวกสบาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะซื้อหาสินค้าไทยตามร้านค้าปลีกทั่วไปในนครคุนหมิงได้ไม่ยากนัก ไม่ว่าจะเป็นถั่วลิสงเคลือบกะทิ ปลากระป๋อง น้ำปลา หรือแม้แต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะรสต้มยำที่ชาวจีนชื่นชอบ 

ว่ากันว่า หากอยากได้สินค้าจีนในเมืองไทย ให้ไปเยาวราช หากอยากได้สินค้าไทยในคุนหมิง ให้แวะไปที่หยุนฝ่าง (云纺 : Yun Fang) เรียกได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าไทยแห่งแรกที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในนครคุนหมิง ตั้งอยู่ชั้น 1 อาคาร A ของ Yun Fang Southeast Asia Mall (云纺东南亚商城) ซึ่งอยู่ภายในเขตการค้าหยุนฝ่าง ที่มีร้านค้าทั้งส่งและปลีกรายล้อมกว่า 5,000 ราย ส่วนใหญ่จำหน่ายเสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ของตกแต่งบ้าน เครื่องสำอางค์ สิ่งพิมพ์ ของเด็กเล่น และอะไหล่รถยนต์ เป็นต้น

Yun Fang Southeast Asia Mall ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนครคุนหมิง การเดินทางสะดวกสบาย มีทั้งรถเมล์ แท็กซี่ และใกล้สถานีรถไฟใต้ดิน เปิดดำเนินการครั้งแรกในปี 2551ซึ่งเป็นปีเดียวกับการเปิดเส้นทาง R3A เพราะบริษัท Yunnan Textile Group (云纺集团) ผู้ก่อตั้ง Yun Fang Southeast Asia Mall เห็นว่า ยูนนานมีความได้เปรียบกว่ามณฑลอื่นในภาคตะวันตกของจีน คือ มีพื้นที่ติดกับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นศูนย์กลางระบบคมนาคมที่จะเชื่อมโยงจีน-อาเซียน

ขึ้นชื่อว่า Southeast Asia Mall แน่นอนว่าภายในหยุนฝ่างก็มีสินค้าจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ชาเย็นผงสำเร็จรูปจากเมียนมาร์ กาแฟและเฝอสำเร็จรูปจากเวียดนาม วางจำหน่ายประปราย แต่ไม่มากและหลากหลายชนิดเท่าสินค้าจากประเทศไทย

แหล่งรวมร้านจำหน่ายสินค้าไทยในหยุนฝ่าง มีพื้นที่ไม่ใหญ่โตนัก เนื่องจากเป็นการจำหน่ายปลีกทางหน้าร้านเพียงร้อยละ 30 ส่วนอีกร้อยละ 70 เน้นค้าส่งไปยังร้านค้าปลีกทั่วไปในคุนหมิงและเมืองต่าง ๆ ในยูนนาน รวมถึงมณฑลข้างเคียงอย่างเสฉวน กุ้ยโจว และฉงชิ่ง ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการไทยและจีนที่จำหน่ายสินค้าไทยประมาณสิบกว่าราย ส่วนใหญ่จำหน่ายสินค้า 4 ประเภทหลัก ได้แก่ อาหารแปรรูป ของตกแต่งบ้าน เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์สปา

อาหารแปรรูป ส่วนใหญ่เป็นของขบเคี้ยวและของทานเล่น นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรไทยอบแห้ง รวมถึงเครื่องดื่มทั้งชนิดผงและกระป๋อง เครื่องปรุงรสต่าง ๆ  และข้าวหอมมะลิ สินค้าประเภทนี้ส่วนใหญ่มีเจ้าของร้านเป็นคนไทย   

ของตกแต่งบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานไม้แกะสลัก อาทิ หัตถกรรมไทย โต๊ะ เตียง และกรอบรูป นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์จากผ้าฝ้าย เช่น กล่องกระดาษทิชชู และหมอนอิง โดยมากมักนำเข้ามาจากภาคเหนือของไทย
สินค้าประเภทนี้ส่วนใหญ่มีเจ้าของร้านเป็นคนจีน และมักจ้างนักศึกษาจีนที่เรียนอยู่เมืองไทยจัดหาของส่งไปให้ หากสั่งซื้อล็อตใหญ่ เจ้าของจะเดินทางไปเมืองไทยด้วยตนเอง

อาหารแปรรูปและของตกแต่งบ้าน ยึดพื้นที่ราวร้อยละ 90 ของศูนย์กระจายสินค้าไทยหยุนฝ่าง ที่เหลือเป็นเครื่องประดับ ซึ่งได้แก่ พลอยสีต่าง ๆ ซึ่งมีดีไซน์ที่ไม่ไทยแท้มากนัก และผลิตภัณฑ์สปา ที่มีทั้งเครื่องประทินผิว เครื่องหอม และสบู่  

ในหยุนฝ่าง มีร้านที่เจ้าของเป็นคนไทยอยู่ 3-4 ร้าน ร้านใหญ่ที่สุดมีชื่อว่า “กินรี”  มีพื้นที่ 4 คูหา รวม120 ตารางเมตร เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2553 ภายใต้ชื่อบริษัท ยูนนานคุนไท่กว่างต้า จำกัด จำหน่ายอาหารไทยแปรรูปเป็นหลัก อาทิ น้ำผลไม้กระป๋อง กะทิกล่องสำเร็จรูป ผลไม้อบแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวหอมมะลิ ข้าวเกรียบ ท็อฟฟี่กะทิและทุเรียน เครื่องปรุงอาหารไทย ใบมะกรูด ตะไคร้และข่าอบแห้ง

ร้านกินรี นอกจากจะนำสินค้าไทยของผู้ผลิตรายอื่นๆ มาจำหน่ายแล้ว ยังเน้นทำตลาดสินค้าที่ผลิตเองภายใต้แบรนด์ “KINNAREE” ซึ่งมีโรงงานอยู่ที่นครปฐม เช่น มะพร้าวอบแห้ง กล้วยอบกรอบ มะขามจี๊ดจ๊าด ปลาฉิ้งฉ้างอบกรอบ และกาแฟสำเร็จรูป

แหล่งรวมร้านจำหน่ายสินค้าไทยหยุนฝ่าง นอกจากจะเป็นที่พึ่งพิงของคนไทยในคุนหมิง โดยเฉพาะนักเรียนไทย ซึ่งมีไม่น้อยกว่า 600-700 คนต่อปีแล้ว ยังเป็นแหล่งสินค้าไทยที่เชื้อเชิญชาวจีนและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในคุนหมิงให้มาเยือนจำนวนไม่น้อย ทั้งผู้ที่ชื่นชอบขนมไทย อยากทำอาหารไทย และต้องการตกแต่งบ้านด้วยหัตถกรรมไทย รวมถึงแฟนคลับดาราไทย ผู้ติดตามละครไทยและภาพยนตร์ไทย อยากได้สินค้าสไตล์ไทยติดไม้ติดมือฝากคนรักหรือคนที่บ้าน ก็ต้องมาที่หยุนฝ่าง 

ด้วยปัจจัยค่าขนส่ง ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000-150,000 บาท/ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งขนส่งผ่านเส้นทาง R3A และค่าเช่าพื้นที่ในหยุนฝ่างที่ถือว่าค่อนข้างแพง ตกตารางเมตรละ 180-200 หยวน ( 1 หยวน ประมาณ 5.20บาท) จึงไม่แปลกใจที่สินค้าไทยที่วางจำหน่ายในคุนหมิงจะมีราคาแพงกว่าสินค้าที่เมืองไทยร้อยละ 50 ถึงเท่าตัว เช่น บะหมี่สำเร็จรูปมีราคาขายปลีก 2.50 หยวน น้ำตาลปี๊บกิโลกรัมละ 20 หยวน ถั่วเคลือบกะทิกระป๋องละ 15 หยวน ข้าวหอมมะลิขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม ราคา 85-90 หยวน  

 แม้สินค้าไทยส่วนใหญ่ที่วางจำหน่ายในหยุนฝ่างหรือคุนหมิงจะมีราคาแพงกว่าราคาขายปลีกบ้านเราเท่าตัว แต่สินค้าไทยก็ได้รับความนิยม เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่เห็นว่าสินค้าไทยที่นำเข้ามาเป็นสินค้าคุณภาพดี ราคาไม่แพงเกินไปนัก และผู้บริโภคในยูนนานก็ถือได้ว่ามีกำลังซื้อสินค้ามากขึ้น ตามนโยบายการพัฒนาภาคตะวันตกของจีน

ปัจจุบัน ผู้บริโภคจีนมีความสนใจในเรื่องความปลอดภัยของสินค้าอย่างยิ่ง เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมา สินค้าอุปโภคและบริโภคของจีนประสบปัญหาการปลอมปน/การปนเปื้อน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหาร ผู้บริโภคจะเน้นสินค้าคุณภาพ และเลือกซื้อสินค้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัย รวมทั้งสินค้าออร์กานิคก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จึงฝากเป็นข้อคิดให้ผู้ประกอบการไทยที่ค้าขายกับจีนได้ตระหนักถึงในประเด็นนี้ให้มาก ๆ เนื่องจากการทำธุรกิจควรคำนึงถึงระยะยาว ไม่ใช่การตีหัวเข้าบ้าน ซึ่งทำลายชื่อเสียงของผู้ประกอบการไทยและประเทศไทย