เมื่อวันที่ 3-4 พฤศจิกายน 2568 นางสาวภาวีวรรณ นรพัลลภ กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง พร้อมด้วยนางสาวศุภัชชา ศุขสวัสดิ์ ณ อยุธยา กงสุล รวมทั้งเจ้าหน้าที่ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนนครคุนหมิง ได้เดินทางเยือนเขตฯ สิบสองปันนา  มณฑลยูนนาน เพื่อศึกษา แลกเปลี่ยนและหารือแนวทางยกระดับความร่วมมือระหว่างไทยกับเขตฯ สิบสองปันนา โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว ความเชื่อมโยง และวัฒนธรรม

ในโอกาสดังกล่าว กงสุลใหญ่ฯ และคณะได้สำรวจศักยภาพและสถานการณ์การขนส่งสินค้าข้ามแดน  ที่ด่านชายแดนและจุดผ่อนปรนระหว่างมณฑลยูนนานกับเมียนมาที่สำคัญ ได้แก่ ด่านต่าลั่ว อำเภอเหมิงไห่ และ จุดผ่อนปรนเหมิ่งหลง (หรือจุดผ่อนปรนม่านต้งหรือเป็นที่รู้จักในชื่อด่าน 240) ตำบลเหมิ่งหลง เมืองจิ่งหงเขตฯ สิบสองปันนา อนึ่ง ด่านต่าลั่วเป็นหนึ่งในด่านระดับประเทศที่สำคัญของมณฑลยูนนาน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย โดยมีพรมแดนติดกับเมืองลา (Mong La) ของประเทศเมียนมา และอยู่ห่างจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ประมาณ 240 กิโลเมตร ปัจจุบันด่านต่าลั่วได้รับการอนุมัติให้เป็นด่านจำเพาะเพื่อการนำเข้าผลไม้และ เมื่อเดือนกันยายน 2568 ยังได้รับการบรรจุอยู่ในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทย-จีน ในขณะที่ จุดผ่อนปรนเหมิ่งหลง มีพรมแดนติดกับ  เมืองยอง (Mong Yawng) ของเขตพิเศษที่ 4 (Special Region 4) ในรัฐฉานของเมียนมา ห่างจากด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพียงประมาณ 180 กิโลเมตร และถือเป็นส่วนหนึ่งของเขตความร่วมมือเศรษฐกิจชายแดนเขตฯ สิบสองปันนา   มณฑลยูนนาน ปัจุบันได้รับอนุมัติให้เป็นจุดนำเข้าโคเนื้อในโครงการนำเข้าโคเนื้อมีชีวิตจากเมียนมา (ยังไม่เริ่มการนำเข้า) และเป็นด่านจำเพาะเพื่อการนำเข้าสมุนไพรจีน โดยสินค้าส่งออกจากจีนไปยังเมียนมา ได้แก่ สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผักผลไม้ อาหารแช่แข็ง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในขณะที่จีนนำเข้าสินค้าเกษตรจากเมียนมา อาทิ สินแร่ สมุนไพร ไม้ และยางพารา

นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ฯ และคณะยังได้เข้าร่วมงานเพื่อส่งเสริมแนวคิด “การฟื้นฟูมณฑลยูนนานเพื่อการพัฒนาชายแดน (Invigorate Yunnan, Benefit Border Areas)” ในยุคใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในมณฑล กับประเทศ เพื่อนบ้าน โดยภายในงานได้มีการประกาศแผนปฏิบัติการหลักเพื่อฟื้นฟูยูนนานและพัฒนาพื้นที่ชายแดน รวมทั้งการลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษามณฑลยูนนาน 8 แห่ง กับศูนย์ปฏิบัติการด้านวัฒนธรรม-จริยธรรมของ 9 เมืองด้วย