บทความบีไอซีคุนหมิง ปี 2557 ตอนที่ 13 ต้อง “ดี แปลก ใหม่” เท่านั้น สินค้าไทยจะ Success ในงาน China-South Asia Expo

บทความบีไอซีคุนหมิง ปี 2557 ตอนที่ 13 ต้อง “ดี แปลก ใหม่” เท่านั้น สินค้าไทยจะ Success ในงาน China-South Asia Expo

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ก.ย. 2558

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 20 พ.ย. 2565

| 489 view

เพิ่งผ่านพ้นไปกับงาน China-South Asia Expo ครั้งที่ 2 และงาน China Kunming Import and Export Fair (งานคุนหมิงแฟร์) ครั้งที่ 22 ซึ่งจัดขึ้นที่ International Convention and Exhibition Center นครคุนหมิง เมื่อวันที่ 6-10 มิ.ย. 2557

ปี 2556 เป็นปีแรกที่มณฑลยูนนานยกระดับงานคุนหมิงแฟร์ โดยมีการจัดงาน China-South Asia Expo คู่ขนานไปด้วยกัน ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ได้จัดงานในปีนี้ให้ยิ่งใหญ่กว่าปีก่อนในหลายๆ ด้าน อาทิ มีคูหาแสดงสินค้า 3,188 คูหา เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 31.7 บนพื้นที่ 7,500 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 7 มีผู้ประกอบการจีนจาก 24 มณฑล และผู้ประกอบการต่างชาติจาก 46 ประเทศ มีผู้เข้าชมงานฯ ตลอด 5 วันกว่า 3 แสนคน

เพื่อย้ำบทบาทของงานฯ ในฐานะเวทีส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศ และต่างมณฑล จึงผลักดันให้มีการทำข้อตกลงด้านการค้าระหว่างประเทศมูลค่า 2.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 20.4 และมีการทำข้อตกลงด้านการลงทุน 508 โครงการ มูลค่าการลงทุน 7.08 แสนล้านหยวน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 18 แบ่งเป็น ทุนจีน 452 โครงการ มูลค่า 6.53 แสนล้านหยวน และทุนต่างชาติ 56 โครงการ 9.08 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ

ถึงงานจะชื่อ “เอเชียใต้” แต่ผู้จัดก็ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผลสำเร็จของงานฯ ส่วนหนึ่งมาจากผู้ประกอบการไทยที่รวมกลุ่มขนสินค้าไทยคุณภาพดีมาจัดแสดงในงานฯ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสินค้าไทยบางส่วนที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคไม่ค่อยดี บทความนี้จะมาแนะนำให้รู้ว่า สินค้าไทยแบบใดผู้ประกอบการกลุ่มใดที่เหมาะจะเข้าร่วมงาน China-South Asia Expo และงานคุนหมิงแฟร์ เพื่อประกอบการพิจารณาเตรียมตัวของผู้ประกอบการไทยในปีถัดไป

1. โดยทั่วไป งานแสดงสินค้าตามมาตรฐานนานาชาติจะเน้นจับคู่ธุรกิจมากกว่าขายปลีก โดยมีการกำหนดวันที่จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจและวันที่เปิดให้ผู้เข้าชมงานทั่วไปเข้าเลือกซื้อสินค้าแยกชัดเจน งาน China-South Asia Expo และงานคุนหมิงแฟร์ก็เช่นเดียวกัน แม้ปีนี้ คณะผู้จัดงานฯ ได้กำหนดให้วันแรกของงานฯ เป็นวันจับคู่ธุรกิจเพียงวันเดียว และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมงานใน 4 วันที่เหลือ แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ที่จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจเพียงช่วงครึ่งวันเช้าของวันแรก สะท้อนว่า คณะผู้จัดงานฯ มีความพยายามที่จะยกระดับงานฯ ให้เป็นไปตามมาตรฐานนานาชาติมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการไทยที่จะมาออกร้าน ควรเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจรธุรกิจด้วย

2. นอกจากผู้ซื้อ (Buyer) ซึ่งได้รับเชิญจากคณะผู้จัดงานฯ ให้มาชมสินค้าและร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจแล้ว ผู้เข้าชมงานทั่วไปต้องซื้อบัตรผ่านประตูในราคา 30 หยวน ซึ่งถือว่าสูงสำหรับชาวนครคุนหมิง ดังนั้น ผู้เข้าชมงานย่อมมีความคาดหวังว่า จะได้เห็นสินค้าที่มีความแปลก โดดเด่น แตกต่างจากสินค้าทั่วไปที่พบเจอได้ตามท้องตลาด

3. ผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงานฯ ควรจะเป็นผู้ผลิตสินค้าโดยตรง ซึ่งจะได้ใช้โอกาสจากการออกร้านสังเกตผลตอบรับจากผู้บริโภค เพื่อนำประสบการณ์กลับไปปรับปรุงสินค้าให้ตรงความต้องการของตลาด ทั้งในแง่ของคุณภาพ และจุดเด่น หากผู้เข้าร่วมงานฯ เป็นกลุ่มผู้ค้า (Trader) ซึ่งนำสินค้าที่คาดว่าน่าจะขายได้มาออกร้าน หากปรากฏว่า ผลตอบรับไม่ดี ก็จะลดราคาเพื่อระบายสินค้าให้หมด และไปหาสินค้าชนิดใหม่มาจำหน่ายต่อไปเป็นวัฏจักร ซึ่งพฤติกรรมลักษณะนี้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และมาตรฐานราคาของสินค้าไทย ที่สำคัญคือ ผู้ค้ากลุ่มนี้ไม่ได้นำผลตอบรับจากผู้บริโภคกลับไปปรับปรุงสินค้า

4. สินค้าไทยที่นำมาออกร้านควรเน้นคุณภาพ เนื่องจากผู้บริโภคชาวจีนมีกำลังซื้อมากขึ้น อีกทั้งสินค้าไทยไม่สามารถแข่งขันเรื่องราคากับสินค้าจีนได้ นอกจากนี้ ควรมีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ สร้างจุดขายที่โดดเด่น ยกตัวอย่างจากสินค้าไทยที่ร่วมออกร้านในงานเทศกาลไทย ณ นครคุนหมิง ปี 2557 อาทิ อัญมณีไทยที่มีการออกแบบที่สวยงาม ดอกไม้ประดิษฐ์ที่เหมือนจริงจนชาวจีนต้องมาลองจับและดมเพื่อพิสูจน์ และกรอบรูปใบไม้สีทองที่สร้างจุดขายจากการที่มีเพียงที่เดียวในโลก